ปัจจุบันมีหนังสั้นหรือคลิปจำนวนมากอยู่บน youtube พล็อตเรื่องก็มักจะวนไปวนมา หรือเวลาที่เราทำหนังสั้นส่งอาจารย์ หรือส่งหนังสั้นไปประกวด ก็มักจะมีคำ comment มาอยู่เสมอว่า “มันเหมือนๆ กันไปหมด” “ไม่แตกต่าง” “ไม่โดดเด่น”
วันนี้ผมมีเทคนิคในการทำงานให้แตกต่างจากคนอื่นมาแบ่งปันนะครับ
1. เล่าเรื่องของตัวเอง
วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำหนังสั้นให้แตกต่างก็คือ การเล่าเรื่องราวของตัวเอง เนื่องจากตัวเรามีคนเดียวในโลก เพราะฉะนั้นถ้าเราเล่าเรื่องราวของเรา ย่อมมีความเป็นไปได้สูงว่า มันจะไม่ซ้ำกับคนอื่นอย่างแน่นอน และเราจะมีความเข้าใจในเรื่องราวของเรา มากกว่าที่เราจะไปเล่าเรื่องราวของคนอื่น
บางทีเรื่องราวของเรา ที่เราเห็นจนชินชา มันก็อาจมีบางแง่มุม หรือบางประเด็นที่สร้างเซอร์ไพรส์กับผู้ชมได้ด้วย
2. ผสม genre หนัง
หนังในโลกเรามีหลายแนว เช่น หนังดราม่า หนังแอคชั่น คอมเมดี้ แนวโรแมนติก ถ้าเราเอาแนวหนังมาผสมกัน ก็จะเกิดเป็นรสชาติใหม่ และมีความแตกต่าง
3. ใช้สถานการณ์ในปัจจุบัน
นักสร้างหนังหลายคนมักจะหยิบเอาสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่กำลังเป็นที่สนใจของคนในสังคม มาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน เช่น พาดหัวข่าวล่าสุด เทรนด์ทวิตเตอร์
สิ่งเหล่านี้ย่อมมีความเป็นไปได้ ที่จะยังไม่มีใครหยิบประเด็นดังกล่าว มาออกมาถ่ายทอด
4. เปลี่ยน POV
ในแต่ละสถานการณ์เราสามารถเล่าเรื่องราวออกมาได้ในหลายมุม ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ที่นักฟุตบอลทีมหมูป่าไปติดถ้ำหลวง ก็มีมุมมองที่สามารถเล่าเรื่องราวได้หลายมุม
โดยเราอาจจะเล่าในมุมของเด็กในถ้ำ
มุมของทีมนักประดาน้ำที่เข้าไปช่วยเหลือ
มุมมองของนักข่าวที่มารายงานสถานการณ์
หรือมุมมองของเพื่อนนักเรียนที่ส่งกำลังใจให้จากข้างนอก
กรณีอย่างหนังเรื่อง “แม่นาค” ที่แม้จะเป็นโครงเรื่องเก่า ทำซ้ำกันมาหลายรอบ หลายเวอร์ชั่น แต่พอผู้สร้างเปลี่ยน POV ไปเล่าในมุมมองของพี่มาก ในหนังเรื่อง “พี่มากพระโขนง” มันก็กลายเป็นความแตกต่างขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นสถานการณ์เดียวกัน เรื่องราวเดียวกัน แต่การเปลี่ยนมุมมอง ก็ช่วยให้เราทำเป็นหนังให้มีความแตกต่างได้
5. ทำซ้ำในแนวทางที่เราถนัด
ถ้ามีคนบอกว่า “หนังสั้นของเราไม่แตกต่างกับของคนอื่น” หลายคนอาจจะเปลี่ยนแนวไปทำแบบใหม่ เพื่อไม่ให้ซ้ำกับเขา แต่ถ้าเราถนัดในการทำนั้นแนวนี้จริงๆ มันเป็นตัวตนของเราจริงๆ ผมก็คิดว่า เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเอง
เพียงแต่เราควร ทำมันอีก ทำเรื่องเล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ ทำจนเกิดความเชี่ยวชาญ
แล้วมันจะกลายเป็นลายเซ็นของเราในที่สุด
จริงๆ เทคนิคในการสร้างความแตกต่างก็คงมีอีกมากมาย หวังว่าจะเป็นแนวทางช่วยทุกคนที่อยากเล่าเรื่องให้แตกต่างได้บ้างนะครับ
ถ้าท่านใดมี เทคนิคในการทำหนังสั้นให้แตกต่าง อยากร่วมแบ่งปันก็สามารถแชร์ความคิดเห็นได้นะครับ